พระราชพิธีอัญเชิญพระบรมอัฐิ กลับสู่ประเทศไทย ของ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกลับสู่ประเทศไทย

ดังนั้น ในวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ได้เสด็จออกจากพระตำหนักคอมพ์ตันแห่งเวอร์จิเนียวอเตอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสู่ท่าเรือเซาท์แทมป์ตัน

ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำลอนดอนของหนังสือข่าวภาพสยามนิกร ได้เขียนบรรยายเหตุการณ์ในวันนั้นไว้ดังต่อไปนี้

"ณ บริเวณท่าเรือ นอกจากจะพบคนไทยซึ่งมาชุมนุมกันอยู่อย่างคับคั่งแล้ว ยังพบชาวต่างประเทศทั้งอังกฤษและมิใช่ อีกทั้งทหารและพลเรือนมาออชมพระบารมีสมเด็จพระบรมราชินี และพิธีส่งพระบรมอัฐิของสมเด็จพระราชสวามีกันอยู่เนืองนอง รอบ ๆ บริเวณท่าเรือจะแลเห็นตึกรามใหญ่ปรักหักพังย่อยยับปรากฏอยู่ อันเป็นผลของอิทธิพลของลุฟท์วัฟเฟอ ของฮิตเลอร์ เมื่อครั้งสงคราม มีบางหลังซึ่งได้สร้างขึ้นใหม่บ้าง แต่รอยสลายยังปรากฏอยู่ทั่วไป และเรือแพนาวาทั้งหลายไม่ว่าใหญ่ว่าย่อม บรรดาที่จอดอยู่ ณ ท่าเรือนี้จะเกร่อไปด้วยผู้คน ซึ่งยืนเท้าราวเหล็กบนดาดฟ้ากันเป็นทิว

ข้าพเจ้าไปถึงได้ไม่นาน กองพันทหารราบเบาของเมอเซท ซึ่งมารออยู่ก่อนหน้าแล้ว ก็ตั้งแถวกองเกียรติยศพร้อมด้วยแตรวงของกองพัน ตอนใกล้ทางเข้าของท่าเรือมีข้าราชการ ทหาร และพลเรือนทั้งของไทยและอังกฤษยืนชุมนุมอยู่ ต่อไปเป็นทหารกองเกียรติยศ เลยแถวทหารไปเป็นหมู่คนไทยทั้งหญิงและชาย ซึ่งยืนเรียงรายไปตามความยาวของเรือ Wilhelm Ruys ซึ่งจะพาสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี และพระบรมอัฐิของสมเด็จพระปกเกล้าฯ กลับบ้านเกิดเมืองมารดรของพระองค์

ครั้นเวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา หม่อมเจ้านักขัตรมงคล เอกอัครราชทูตไทยประจำสำนักเซนต์เยมส์ก็มาถึงพร้อมด้วยชายา และหลังจากที่ได้ทักทายข้าราชการไทยและอังกฤษ ซึ่งมายืนรอรับอยู่ใกล้ทางเข้าท่าเรือแล้ว ก็ทรงรอรับเสด็จพระบรมราชินี ณ ที่นั้น พอใกล้เที่ยงมองแต่ไกลก็เห็นธงมหาราชน้อยปลิวไสวอยู่หน้ารถพระที่นั่งคันใหญ่ ดำมะเมื่อม ซึ่งค่อย ๆ คลานเข้าประตูมา สมเด็จพระบรมราชินีทรงก้าวลงอย่างแช่มช้อย แตรวงทหารกองเกียรติยศบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิพร้อมด้วยท่านเอกอัครราชทูตและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนทั้งทหารและพลเรือนผ่านแถวทหารและหมู่ประชาชนชาวไทยไปขึ้นเรือ ซึ่งบนเสากระโดงเรือมีธงมหาราชอันเหลืองอร่ามปลิวสะบัดอยู่

สมเด็จพระบรมราชินีทรงทักทายข้าราชการ ทหาร และพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายอังกฤษและไทยอยู่ครู่หนึ่ง ต่อจากนั้น ได้เสด็จพระดำเนินตรวจทหารกองเกียรติยศ และได้เสด็จพระราชดำเนินไปขึ้นเรือ ระหว่างทางได้ทรงทักทายเพื่อนร่วมชาติของพระองค์ ซึ่งได้เรียงรายกันอยู่เพียบพร้อมคับคั่งอย่างไม่เคยปรากฏมาแต่กาลก่อนในต่างประเทศ ข้าราชการ ทหาร และพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ได้เดินตามเสด็จไปส่งถึงบนเรือ ซึ่ง ณ ห้องอาหารเล็กของเรือได้พระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ข้าราชการดังกล่าวนั้นอย่างเป็นกันเอง

คนโดยสารทั้งหลายของเรือ Wilhelm Ruys ตลอดจนลูกเรือซึ่งแต่แรกชุมนุมกันอยู่บนดาดฟ้าอย่างเนืองแน่นนั้น บัดนี้ได้หายเข้าไปในลำเรือเหมือนถูกมนต์ ด้วยทุกคนทั้ง ๆ ที่คงจะได้ชมพระบารมีไปอีกหลายวันกว่าจะถึงสิงคโปร์ ต่างก็ฉกฉวยโอกาสแห่งความตื่นเต้นทึ่งใจนี้ไม่ได้ ยังให้ดาดฟ้าอ้างว้างปลอดโปร่งเหมือนเรือที่ลอยลำโดยไม่มีผู้คน

หลังจากเวลาอาหารกลางวันได้ผ่านไปแล้ว สมเด็จพระบรมราชินี ได้เสด็จขึ้นยังห้องสมุดของเรือ ซึ่ง ณ ที่นั้น ได้ทรงต้อนรับข้าราชการที่มาทูลลาและถวายพระพรให้การเดินทางของพระองค์แจ่มใสสวัสดี เวลาเลื่อนมาถึง ๑๓.๓๐ นาฬิกา Wilhelm Ruys ก็ถอนสมอขึ้นและเริ่มถอยลำออกไป และนานเท่านานที่เรือกำลังถอยออกสู่ท้องน้ำใหญ่ จะเห็นพระหัตถ์โบกอยู่บนดาดฟ้าตลอดเวลา เป็นพระหัตถ์ที่น้อมรับเสียงไชโย และมือทั้งหลายนับเรือนร้อยซึ่งโบกสะบัดอยู่บนชานท่าเรือเบื้องล่างนั้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ แล้ว Wilhelm Ruys สีฟ้าลำงามก็ใช้จักรเร็วขึ้นมุ่งเข็มออกสู่ท้องทะเล"

เรือวิลเฮ็มไร (Wilhelm Ruys) เป็นเรือของบริษัท Royal Rotterdam Lloyd ได้ไปถึงเกาะสิงคโปร์เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ กองทหารซอลสเบอรี (Salisbury) และกองทหารแบล็ควอทช์ (Black Watch) ซึ่งเป็นกรมทหารราบจากสก็อตแลนด์ของอังกฤษตั้งแถวกองเกียรติยศรับเสด็จฯ มีธงไชยเฉลิมพล ทางรัฐบาลไทยได้เช่าเรือ "ภาณุรังษี" จากบริษัท อีสต์เอเชียติกมารับเสด็จจากสิงคโปร์ไปยังเกาะสีชัง

ถึงเกาะสีชังวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานในกล่องหินอ่อน เปลี่ยนลงบรรจุในพระโกศทองคำ เสร็จแล้วอัญเชิญลงเรือรบหลวง "แม่กลอง" แห่งราชนาวีไทย แล่นสู่กรุงเทพมหานคร เทียบท่าราชวรดิฐ แล้วอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งราเชนทรยาน แห่เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง

วันที่ ๒๕-๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ มีงานบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และต่อมาในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ศกเดียวกัน ได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรังคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไปบรรจุ ณ พุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธ ซึ่งเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์

ใกล้เคียง

งานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 93 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 งานกระจกสี งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 งามพรรณ เวชชาชีวะ งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 60 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 65 งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 62